วันพุธที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

อย่าลืมสัญญา

คำพูดบางคำ เราอาจนึกว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย พูดแล้วก็แล้วกัน ไม่เคยย้อนกลับไปนึกถึง หรือคิดจะรักษาคำพูดและสัญญาที่ให้ไว้ หากคุณเคยสัญญากับใครไว้ แล้วผิดคำสัญญา คุณอาจไม่จำ แต่อีกคนอาจจำไปตลอดชีวิต

ฉันนึกถึงวัยเยาว์ของตัวเองที่เคยแต่งตัวคอยเก้อ เมื่อมีผู้ใหญ่บอกว่า ถ้าวันนี้เป็นเด็กดี เย็นนี้จะพาไปเที่ยว ฉันอาบน้ำแต่เช้าซึ่งปกติจะไม่เคยทำ ทำตัวเป็นเด็กดีตลอดทั้งวัน ใส่ชุดสวยคอยท่าตั้งแต่เช้า สาย บ่าย เย็น จนฟ้ามืดมิด ผู้ใหญ่คนนั้นก็หลงลืมไม่ได้สนใจคำสัญญาที่ให้ไว้ เรื่องราวผ่านมานานหลายสิบปี ฉันยังจำเรื่องนี้ไม่ลืม และจำไว้ว่าเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ ฉันจะไม่ให้คำสัญญาอย่างนี้กับเด็กเป็นอันขาด


ผู้ใหญ่บางคนมักคิดว่าคำสัญญาที่ให้กับเด็กไม่มีความหมายอะไร เพียงวันสองวันเด็กก็คงลืมคำสัญญาไปเอง ภาพยนตร์เรื่อง treeless mountain สะท้อนความเจ็บปวดเรื่องคำสัญญาได้ดีที่สุด เมื่อแม่คนหนึ่งไม่สามารถแบกภาระเลี้ยงดูลูกเล็กๆสองคนได้อีกต่อไป เธอนำลูกไปฝากไว้กับพี่สาวที่มีศักดิ์เป็นป้าของเด็ก ซึ่งยากจนเช่นเดียวกัน ก่อนจากกันเธอส่งกระปุกหมูใบหนึ่งให้ลูกและบอกว่า " ลูกหยอดเหรียญใส่กระปุกนี้ไว้นะจ๊ะ ลูกหยอดเหรียญใส่กระปุกหมูจนเต็มเมื่อไร วันนั้นแม่จะกลับมาหาลูกทันที" แล้วแม่ก็ขึ้นรถบัสจากไป ทิ้งความหวังไว้ให้เด็กหญิงตัวน้อยสองคน หลังจากวันนั้นหนูน้อยทั้งสองได้พยายามทุกวิถีทางที่จะหาเหรียญมาหยอดกระปุกหมู สองพี่น้องรอคอยอย่างมีความหวัง จนวันหนึ่งเธอก็หยอดกระปุกหมูจนเต็ม และวิ่งไปที่ป้ายรถบัส หวังว่าแม่จะต้องมาหาเธอทันทีตามที่สัญญากันไว้..วันแล้ววันเล่าแม่ก็ไม่เคยกลับมา หลังจากรอคอยอย่างสิ้นหวัง จินผู้เป็นลูกสาวคนโตพูดขึ้นว่า "แม่เราเป็นคนโกหก"



ในช่วงฤดูกาลหาเสียง นับเป็นเทศกาลแห่งคำมั่นสัญญา เราจะได้ยินคำสัญญามากมายที่พรรคการเมืองบอกกับพวกเรา.นับสิบนับร้อยคำสัญญา.และจะมีสักกี่คำสัญญาที่เขาทำได้จริง..

ฉันแค่อยากบอกทุกคนว่า ..ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยหรือเรื่องใหญ่ ..อย่าได้ให้คำมั่นสัญญาถ้าคุณไม่มี (ปัญญา) ทำได้จริง