วันจันทร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2555

รู้ได้อย่างไร..ว่าใครรักคุณ?


รู้ได้อย่างไร..ว่าใครรักคุณ? สัญญาณ 10 ข้อนี้คือคำตอบ

                                แค่พิมพ์คำว่า “รู้ได้อย่างไร” ในกูเกิล เสิร์ช เราก็จะเจอประโยคต่อท้ายคำถามประมาณว่า รู้ได้อย่างไรว่า..ใครชอบเรา ? รู้ได้อย่างไรว่า ใครรักเรา ?รู้ได้อย่างไรว่า.. ผู้หญิงชอบเรา ? รู้ได้อย่างไรว่า..ผู้ชายชอบเรา ? ฯลฯ นี่คือคำถามยอดฮิตที่คนนับแสนที่กำลังมีความรักอยากรู้กันนักกันหนา..  ไหน ๆ ก็เป็นคำถามยอดฮิตติดชาร์ตแล้ว ผู้เขียนขออาสาค้นหาคำตอบมาฝากให้หายสงสัยกันเสียที ว่าคนที่ออกอาการหลงรักคุณนั้นจะแสดงอาการอย่างไรบ้าง นี่คือสัญญาณ 10 ข้อที่กูรูฟันธงว่า “รักชัวร์” ดังต่อไปนี้

1. บอกรักคุณ อันนี้ชัดเจนสุด ๆ หนุ่มสาวสมัยนี้ใจกล้ากว่าเดิมมาก รักใครชอบใครก็บอกไปตรง ๆ เพราะบางทีเจอผู้ชายที่ใช่ หรือผู้หญิงที่ชอบ มัวแต่อ้ำอึ้งอยู่นั่นแหละ ไม่นานนักก็มักจะมีสุนัขคาบไปรับประทาน ดังนั้นยุคนี้รักใครชอบใครก็เลยต้องรีบตัดสินใจชิงบอกรักไปก่อน แล้วค่อยไปตายเอาดาบหน้าว่าเขาจะรักหรือไม่รักตอบ หากใครมาบอกรักคุณ ถือว่าคุณลอยลำเข้าเส้นชัยไปแล้วเกินครึ่ง แต่อย่าเพิ่งปักใจเชื่อเสียทีเดียว เพราะคำรักใคร ๆ ก็บอกได้ ต้องดูความประพฤติประกอบด้วยว่าทำอะไรที่แสดงว่ารักจริงหรือเปล่า
ภาพจาก https://www.pexels.com

2. พ่อแม่เขาหรือเธอต้อนรับคุณดีมาก พ่อแม่ที่เหมือนเป็นแนวหลัง แต่สามารถส่งสัญญาณคลื่นรับส่งถึงแนวหน้าได้ดี ลองพ่อแม่ออกอาการชอบคุณล่ะก็ แสดงว่าลูกต้องมีใจแน่ ๆ หากพ่อแม่ชวนมาบ้าน ชวนมานั่งคุยนาน ๆ ชวนกินข้าวที่บ้าน ฯลฯ อันนี้ยิ่งกว่าแน่เสียอีกว่า คุณน่าจะติดอันดับสุดที่รักของเขาและเธอบ้างแหละ

3. ดวงตาเป็นประกายเมื่อมองคุณ เวลาเขามองหน้าคุณ หากเขาชอบคุณล่ะก็ ดวงตาเขาจะเป็นประกายแวววาวปิ๊งปั๊ง อันนี้อธิบายไม่ถูก คงต้องมองตากันเอง เพราะสายตาที่บ่งบอกความรักจะมีประกายไม่เหมือนสายตาปกติ หากมองตาแล้วเห็นประกายแวววาวอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน พอสบตาแล้วใจวาบ ๆ หวิว ๆ ประมาณนั้นเมื่อไร แสดงว่างานนี้มีลุ้นแน่นอน

4.โทรหาบ่อย ๆ  โทรหาทุกวัน บางวันโทรหาหลายครั้ง บางทีไม่มีเรื่องอะไรสำคัญ แต่เพียงเพราะแกล้งฟอร์มอยากได้ยินเสียงคุณนั่นเอง อยากเล่าโน่นเล่านี้ให้ฟัง ทั้ง ๆ ที่ประเด็นน้อยนิดเหลือเกิน นอกจากนี้ยังชอบส่งข้อความมาหาคุณ ไลน์มาคุยยามว่าง มีความพยายามเปิดทุกช่องทางการสื่อสารกับคุณตลอดเวลา แสดงว่าคุณอยู่ในความสนใจของเขาแล้วอย่างแน่นอน ไปรอขึ้นแท่นได้

5. อยากทำอาหารให้คุณกิน อาการนี้มักจะเกิดกับผู้หญิง ที่อยู่ ๆ เธอก็อยากลงมือเข้าครัวทำอาหาร ทั้งที่มีฝีมือและไม่มีฝีมือ แต่การทำอาหารของเธอมีจุดมุ่งหมายเดียวคืออยากให้คุณได้ลองกินอาหารฝีมือเธอ ทุ่มเทซะขนาดนี้อันนี้ชัวร์แล้วล่ะว่าเธอโคตรชอบคุณเลย ส่วนผู้ชายคงทำอาหารไม่เป็น แต่ก็พยายามเสาะหาร้านอาหารอร่อยที่มีเมนูเด็ดที่สาวชอบ แล้วพยายามชวนไปกินตลอดเวลา อันนี้มีแววชัดเจน

6.อยู่ใกล้คุณแล้วมีความสุข ข้อนี้สังเกตไม่ยากเลย  หากเขามีอาการชอบไปไหนมาไหนกับคุณ ชวนแล้วก็ไปทุกครั้งไม่เคยปฏิเสธ และเวลาอยู่กับคุณ ก็ออกอาการร่าเริงมีความสุข ยิ้มแย้มแจ่มใสตลอดเวลา อารมณ์ดี คุยกันไม่เบื่อไม่หน่าย คุยกันได้ทั้งวันทั้งมีสาระและไม่มีสาระ อันนี้ชัดเลยแหละ แสดงว่าคุณโดนใจเขาแน่นอน

7.เพื่อนสนิทกระซิบบอก  หากอยากรู้ว่าเขาชอบคุณหรือเปล่า ต้องลองกระซิบถามเพื่อนซี้ เพราะเพื่อนซี้มักจะรู้ดีทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องหัวใจ หากเพื่อนสนิทเขาบอกว่าเขาสนคุณ ส่วนมากมักไม่พลาดหรอก

8. เล่าเรื่องส่วนตัวให้ฟัง เรื่องส่วนตัวบางเรื่องที่คนอื่นไม่รู้ เพราะเขาไม่เคยเล่าให้ใครฟัง  แต่เลือกเล่าให้คุณฟังเป็นพิเศษ เช่นเรื่องตลก ๆ ฮาๆ ของเขาเอง  ปัญหาครอบครัว ปัญหาตัวเอง เรื่องเจ้านาย เรื่องกลุ้มใจ เล่าเรื่องปัญหาต่าง ๆ หรือชอบปรึกษาหารือกับคุณ ฯลฯ  แสดงว่าคุณอยู่ในข่ายคนไว้ใจของเขาหรือคนพิเศษเหนือระดับคนอื่นแล้ว โปรดจงภูมิใจได้

9. พยายามทำตัวให้ดูดีเมื่อเวลาต้องเจอคุณ สาวบางคนไปทำผม แต่งหน้าสวย แต่งตัวสวยผิดปกติ เมื่อเวลานัดพบคุณ หรือหนุ่มคนนั้นแต่งตัวหล่อ ดูดีมากเป็นพิเศษเมื่อนัดเจอคุณ นั่นแสดงว่าคุณมีความสำคัญกับเขามาก เขาอยากดูดีที่สุดในสายตาของคุณ แสดงว่าเขามีใจให้คุณแน่

10. พยายามใช้เวลาอยู่กับคุณให้มากที่สุด ในวันหยุดหรือมีเวลาว่างเมื่อใด เขาและเธอจะต้องรีบคว้าตัวคุณไว้ทันที เพราะอยากใช้เวลาอยู่ใกล้คุณมากที่สุด แสดงว่าคุณนั้นแสนจะมีค่ามากในสายตาของเขา

ลองสังเกตดูว่ามีใครออกอาการอย่างนี้กับคุณบ้างไหม  ถ้ามีก็รับรองว่าเขาตกหลุมรักคุณร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่มีเป็นอื่นแน่นอน..  แต่ถ้าโทรไปไม่อยากรับสาย ไลน์ไปก็ไม่ตอบกว่าจะตอบข้ามวันข้ามคืน วันหยุดชวนไปไหนก็ไม่อยากไป เรื่องสำคัญในชีวิตเขา คนอื่นรู้ก่อนคุณทุกครั้ง เวลาเจอคุณก็ทำท่าปกติ ไม่กระตือรือร้น เฉยเมยไปเสียทุกเรื่อง ถ้าออกอาการชัดซะขนาดนี้ ก็จงเตรียมใจไว้เหอะ โดนแน่นอน หมายถึง โดนทิ้งอ่ะนะ เตรียมหาแฟนใหม่ได้เลย

วันศุกร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2555

เปลี่ยนแปลงตัวเอง..ทำไม่ไม่สำเร็จ?

 พอถึงปีใหม่..พอถึงวันเำกิด..หลายคนมักนิยมตั้งเป้าหมายใหม่ ๆ ในชีวิต หนึ่งในนั้นมักมีเรื่องการเปลี่ยนแปลงตัวเองไปสู่สิ่งที่ดีกว่า เช่น ลดน้ำหนัก เก็บเงิน ฯลฯ แรก ๆ ก็เข้มแข็งดีหรอก..พอผ่านไปอาทิตย์หนึ่ง ก็มักกลับมาเป็นคนเก่าเหมือนเดิมเป๊ะเลย..ทำไมการเปลี่ยนอะไรสักอย่างในชีวิตมันช่างยากเย็นเสียจริงหนอ ?

  คำแนะนำที่่จะช่วยคุณให้เปลี่้ยนแปลงชีวิตไ้ด้สำเร็จคือ
1. อย่าพยายามเปลี่ยนหลายอย่างพร้อม ๆ กันในเวลาเดียวกัน หลายคนมักฮึดสู้แบบบ้าดีเดือด วันดีคืนดีก็ประกาศกึกก้องว่า ฉันจะลดน้ำหนัก ฉันจะออกกำลังกาย  ฉันจะตื่นเช้า ฉันจะฝึกโยคะ และอีกมากมายตามแต่จะนึกขึ้นได้ การแสดงแสนยานุภาพพร้อมๆ กันนั้นเป็นการกดดันตัวเองมากมายเกินไป บางคนอาจเปลี่ยนได้ครบถ้วนอย่างที่ต้องการ แต่มักไม่มั่นคงยืนยาว พอไม่นานมักจะล้มเหลวไม่เป็นท่า

   คำแนะนำคือการเปลี่ยนแ่ปลงอะไรบางอย่างเป็นเรื่องของจิตใจ ภายในใจคุณมักจะแอบต่อต้านอยู่แล้ว โดยคุณอาจไม่รู้ตัว เมื่อคุณทำอยู่ไม่นาน เสียงร่ำร้องในใจจะพยายามดึงคุณกลับไปสู่สภาพเดิม ไปหาความเคยชินเก่า ๆ สุดท้ายก็ไม่สำเร็จ ดังนั้นเพื่อให้การเปลี่ยนแปลงสำเร็จ คุณจะต้องเริ่มต้นเปลี่ยนทีละอย่าง แม้จะดูไม่ท้าทาย และน่าเบื่อ แต่เชื่อเถิด การเปลี่ยนแปลงทีละอย่างคุณจะทำได้สำเร็จ ดีกว่าทำห้าสิบอย่างในเวลาเดียวกันแล้วล้มเหลวหมดทุกอย่าง

2.คิดว่าทำได้ง่าย ๆ ใช้เวลาไม่นานก็สำเร็จ นี่เป็นความเข้าใจที่ผิดพลาดมาก การเปลี่ยนแปลงนิสัยไม่ได้เกิดขึ้นภายใน 7 วันเหมือนครีมหน้าขาวหน้าสวย จากข้อมูลยืนยัึนว่าการที่คนจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้นั้นต้องทำซ้ำ ๆ อย่างน้อย 60-90 วันขึ้นไป เร็วสุดคือ 21 วัน หากทำซ้ำ ๆ ได้ประมาณนี้ จะเปลี่ยนแปลงนิสัยได้ ไม่ใช่แค่ทำวันสองวันแล้วจะสำเร็จ ฟันธง!


3. หาวิธีที่เหมาะแก่ตัวเอง อาจจะมีใครแนะนำคุณว่าต้องทำอย่างนั้น ทำอย่างนี้ แต่พอคุณทำตามเขาแล้วแสนจะอึดอัดใจ มีแต่ความทุกข์ระทมขมขื่น จงอย่าฝืนทำต่อไปเลยเพราะมองเห็นทางนรกข้างหน้าอยู่แล้วว่าวันหนึ่งคุณจะต้องเลิกแน่นอน ขอให้คุณลองดูว่าตัวเองอยากทำวิธีไหนก็ให้เลือกวิธีนั้น จะทำให้โอกาสประสบความสำเร็จมีมากขึ้น

4. อย่าคิดถึงความสุขเดิม ๆ ที่เคยทำ มีหลายคนแม้จะตั้งใจเปลี่ยนแปลงตัวเอง เช่น เลิกกินขนมหลังสี่ทุ่ม แต่ขณะที่กำลังเลิกกิน ในใจก็คิดถึงความสุขตอนกัดกินขนมตลอดเวลา เชื่อเถิดว่าไม่เกินสามวัน คุณจะย้อนกลับไปทำตัวเหมือนเดิมอีก วิธีที่ดีที่สุดคือพยายามไม่คิดถึงความสุขเก่า ๆ ที่เคยเสพติด ร่างกายอาจรู้สึกว่า โอ๊ย ฉันทนไม่ไหวแล้ว จิตใจก็พยายามชักนำคุณให้กลับไปทำตัวเหมือนเดิมอีก คุณต้องใจแข็งเข้าไว้ บอกตัวเองว่า นี่จิตใจมันกำลังหลอกล่อคุณ แต่คุณจะไม่มีวันหลงเชื่อ เพราะคุณได้เปลี่ยนตัวเองไปแล้ว เพื่อจะค้นพบสิ่งดี ๆ ยิ่งกว่าเดิม

5.อย่าปล่อยตัวเองในสุญญากาศ  การเปลี่ยนแปลงนิสัยเก่าหรือหยุดพฤติกรรมบางอย่างที่คุณตั้งใจไว้ คุณจะต้องคิดหานิสัยใหม่ที่จะมาำทำแทนที่ด้วย เพราะไม่เช่นนั้นคุณอาจตกอยู่ในสุญญากาศไม่มีอะไรทำ และจะกลับไปทำตัวเหมือนเดิม เช่น คุณตั้งใจจะไม่เล่น facebook ตอนสี่ทุ่มเป็นต้นไป ซึ่งเดิมเคยเล่นถึงเที่ยงคืน พอถึงเวลาสี่ทุ่มคุณก็ปิดเครื่อง ทำตามความตั้งใจเดิมไว้ แล้วก็นั่งเฉย ๆ ซื่อบื่อไปถึงเที่ยงคืนโดยไม่มีกิจกรรมอื่นใดมาทำแทนที่เลย เชื่อว่าไม่นานนักคุณจะกลับไปเล่น facebook อีกแน่นอน เพราะไม่มีอะไรทำ วิธีที่ดีที่สุดก็คือ เปลี่ยนนิสัยเก่า ก็ต้องการนิสัยใหม่มาทำแทนทันที เช่นหยุดเล่น facebook ก็หันมาอ่านหนังสือแทน ดูทีวี หรือนั่งสมาธิ ฯลฯ เมื่อมีกิจกรรมมาแทนที่ คุณก็จะไม่ตกอยู่ในสุญญากาศและสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้สำเร็จ

    เมื่อตั้งใจจะเปลี่ยนแปลงตัวเองแล้ว จงเดินหน้าเปลี่ยนแปลงไป จะเชื่องช้าราวหอยทากก็อย่าได้หวั่นไหว.. สำเร็จทีละนิดก็ยังดีกว่าไม่ได้คิดเริ่มตันทำอะไรเลย
   เดินหน้าต่อไป..วันหนึ่งคุณจะต้องทำสำเร็จแน่นอน...