วันเสาร์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2556

สินค้าเด็ก..กับดักความรักของพ่อแม่

  ผู้เขียนเพิ่งได้ยกระดับจาก "อา" ไปเป็น "ยาย" เมื่อไม่กี่วันมานี้เอง ฟังดูแก่เฒ่ามากมาย แต่ชีวิตจริงไม่วันใดวันหนึ่งเราทุกคนล้วนต้องแก่เฒ่าเป็นย่าเป็นยายอยู่วันยังค่ำ ในฐานะยายจึงเดินทางไปเยี่ยม "หลาน" ที่เพิ่งคลอดได้ไม่กี่วัน ที่สะดุดใจมากมายไม่ใช่หลาน ( เพราะหลานหน้าตาดีเหมือนยายอยู่แล้ว  ^^ )  แต่คือบรรดาสินค้าประดามีของเด็กทารก ซึ่งช่างมีมากมายมหาศาลยิ่งนัก ที่จำเป็นต้องใช้ก็มี แต่ที่เกินจำเป็นนั้นต่างหากที่น่าสนใจยิ่งนัก นี่คือผลงานของนักการตลาดโดยแท้ ๆ

   สมัยก่อนเมื่อมีเด็กเกิด สิ่งที่ต้องมีคือ ผ้าอ้อม เมาะสำหรับนอน เปลสำหรับไกว ขวดนม ขวดน้ำ มุ้งประทุนสำหรับนอนกลางวัน สรุปรวมค่าใช้จ่ายแค่หลักพันก็เอาอยู่ แต่วันนี้ผู้เขียนได้เห็นมหกรรมเครื่องใช้ที่มากมายแปลกหูแปลกตา อย่างน้อยพ่อแม่รุ่นใหม่ต้องจ่ายหลายหมื่นบาทแน่นอน

   พ่อแม่รุ่นใหม่ต้องมีที่นึ่งขวดนมอัตโนมัติ ราคาเกือบ 3.000 บาท ในสมัยก่อนเราแค่นึ่งในซึ้งที่ใช้นึ่งกับข้าวก็ใช้ได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องซื้อเลยแม้แต่น้อย  เปลเด็กทารกที่ออกแบบมาเก๋ไก๋แล้วตั้งราคาแพงเกือบ 5,000 บาท  ต่างกับเปลสมัยก่อนที่เป็นโครงเหล็ก รอบข้างเป็นซี่ห่างพอสมควร ลักษณะโปร่ง มีผ้ามุ้งกันไว้รอบ ราคาก็ไม่แพง นอนสบายกว้างขวางกว่าด้วยซ้ำ แม่ยุคนี้ยังต้องมีเครื่องปั๊มนมไฟฟ้าอีกต่างหาก แม่สมัยก่อนไม่เคยจำเป็นต้องใช้ แต่พอเข้าใจได้ว่าใ้ช้เพื่อเก็บนมให้ลูกกินตอนแม่ไปทำงาน  นอกจากนี้ยังมีเครื่องอุ่นนม ยังไม่รวมรถเข็นเด็กราคาเกือบหมื่นบาทที่จะต้องตามมาในอนาคต และอื่น ๆ อีกมากมายตามที่นักการตลาดจะคิดหลอกล่อเงินจากกระเป๋าพ่อแม่มือใหม่ได้

    พ่อแม่ทุกคนย่อมอยากเห็นลูกมีความสุขมากที่สุด ดังนั้นการควักสตางค์ซื้อทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับลูกจึงเป็นเรื่องที่ทุกคนพร้อมจ่ายเสมอ เพราะการซื้อสิ่งของให้ลูกเปรียบเหมือนการแทนค่าคำว่า "รัก" ยิ่งซื้อให้มากแสดงว่ายิ่งรักมาก ซึ่งเรื่องนี้นักการตลาดรู้ดี จึงผลิตสินค้ามาดูดเงินบรรดาพ่อแม่มือใหม่อย่างล้นหลาม จะหาอะไรก็ได้ จะซื้ออะไรก็มี ทั้งที่บางอย่างเพียงเราหยุดคิดจะพบว่าไม่ใช่สิ่งจำเป็นนัก แค่ใช้ไม่กี่เดือนก็อาจต้องเก็บเข้าห้องเก็บของ หรือกลายเป็นขยะในวันข้างหน้า

    " กับดักความรัก" เหล่านี้กำลังถูกสร้างขึ้นมาดูดเงินบรรดาพ่อแม่มือใหม่ หมายรวมไปถึงเสื้อผ้าเด็กโตที่ราคาตัวละเกือบพันบาท ซึ่งเด็กจำเป็นแค่ไหนที่ต้องใส่เสื้อผ้าเหล่านั้น ไม่กี่เดือนเสื้อก็คับใส่ไม่คุ้มเสียแล้ว  ถ้าพ่อแม่รวยคงไม่มีใครว่า แต่พ่อแม่ฐานะไม่ดีที่่ต้องพยายามดิ้นรนเก็บเงินกันจนหน้ามืดเพื่อซื้อให้ลูกเพราะหลงเชื่อว่าการซื้อของแพง ๆ ของดีๆ ให้ลูก เพื่อทัดเทียมกับทุกคน เป็นการแทนคำว่า "รัก" โดยหลงลืมคำว่า "จำเป็น" ไปโดยสิ้นเชิง

     พ่อแม่มือใหม่ควรระวัง"กับดักความรัก" เหล่านี้  ก่อนจะควักสตางค์ซื้อของ อย่าคิดว่าซื้อเพราะรัก แต่ขอให้คิดว่า "ซื้อ" เพราะ  "จำเป็น"  ถ้าทำได้ดังนี้แล้ว คุณจะค้นพบว่าการเป็นอิสระจากมายาการตลาดนั้นนำความสุขมาให้ชีวิตมากมายเพียงใด
-----------------------------------------------------------------------------------------------------