วันอาทิตย์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2554

รู้สึกดีๆ กับตัวเอง



ถ้าอยากให้ใครต่อใครรู้สึกดีๆ กับเรา เราก็ต้องเริ่มต้นรู้สึกดีๆ กับตัวเองก่อน ถึงแม้รูปร่างหน้าตาไม่ดี หน้าที่การงานก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ ฐานะการเงินก็ไม่ร่ำรวย แต่ทั้งหมดไม่ใช่เรื่องสำคัญ สิ่งสำคัญคือสิ่งที่เรามีอยู่ในชีวิตขณะนี้ นั่นคือ"สิ่งดีๆ" ที่เราควรภูมิใจ

จงภูมิใจในความสำเร็จของชีวิต
แม้จะเป็นเพียงเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ในแต่ละวัน ขอให้เราภูมิใจในความสำเร็จนั้นของเรา เช่น ตั้งใจจะตื่นตี 5 แล้วเราก็ตื่นได้ทันเวลา นี่คือความสำเร็จของเราแล้ว รวบรวมความสำเร็จเหล่านี้เพื่อทำให้รู้สึกดีๆ กับตัวเองทุกๆ วัน

ทำตัวเองให้คนอื่นรัก และรู้จักรักคนอื่น
จงเป็นมิตรกับทุกคน ไม่ว่าคุณจะเดินไปไหนมาไหน พบเจอกับใคร ก็ขอให้มีแต่คนยิ้มแย้มให้ นั่นย่อมทำให้คุณรู้สึกดีกับตัวเอง และถ้าไปเจอใครที่ไม่ชอบหน้าคุณ ก็จงทำดีกับเขาเช่นกัน เพราะจะทำให้รู้สึกดีกับตัวเองมากยิ่งขึ้นไปอีก

โลกนี้ไม่มีอะไรดีสมบูรณ์แบบ
ดังนั้นวันนี้สิ่งที่คุณเป็นอยู่ ทำอยู่ แม้จะไม่ได้ดีที่สุด แต่ก็ถือว่าดีมากแล้ว จงภูมิใจในตัวเองที่ทำได้แล้ว และจะพยายามทำต่อไปเพื่อให้มันดีสมบูรณ์แบบที่สุดในวันหนึ่งข้างหน้า คุณจะไม่ยอมนั่งรอความสำเร็จที่ดีสมบูรณ์แบบ แต่คุณตั้งใจจะเดินไปใกล้มันมากยิ่งขึ้น และรู้สึกดีขึ้นทุกๆ วันที่เข้าไปใกล้ความสำเร็จ

สิ่งที่เราเลือกคือสิ่งที่เหมาะกับตัวเรา
ของที่คุณเลือก สิ่งที่คุณชอบ ไม่ว่าคนอื่นจะไม่ชอบหรือบอกว่าไม่ดี คุณก็จงรู้สึกดีที่ได้เลือกได้ใช้ของสิ่งนั้น เพราะคุณรู้สึกดีว่าคุณได้เลือกแล้ว และรู้ดีว่าสิ่งนี้เหมาะกับคุณมากที่สุด ภูมิใจกับสิ่งที่เรามีอยู่ โดยไม่จำเป็นต้องเปรียบเทียบกับคนอื่น หรือใช้ความคิดของใครเป็นตัวกำหนดว่าดีหรือไม่

รู้สึกดีที่ได้ใช้ชีวิต
การได้อยู่บนโลกใบนี้ ถือเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตคุณ ทุกขณะที่คุณยังสูดลมหายใจเข้าปอดได้ นั่นแสดงว่าคุณยังมีชีวิต มีสิทธิคิด มีสิทธิฝัน จงรู้สึกดีกับตัวเองที่มีโอกาสใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ ขณะที่มีอีกหลายชีวิตที่ไม่มีโอกาสอยู่จนถึงวันนี้เหมือนคุณ

มีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นแล้วมากมายในชีวิต อย่ารอจนถึงพรุ่งนี้ที่จะมีความสุข ใช้เวลาในขณะนี้รู้สึกดีๆ กับตัวเองได้เลย

วันอังคารที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2554

ลาออกจากงาน แล้วมาทำงานที่บ้านดีกว่า


บ้านที่เราอยู่ไม่ได้มีไว้นั่ง ๆ นอน ๆ ได้อย่างเดียว แต่เราสามารถเปลี่ยนบ้านให้กลายเป็นที่ทำงานได้เช่นกัน วันใดคุณเบื่องานประจำอยากจะมีชีวิตอิสระและทำงานที่ตัวเองรัก คุณสามารถเริ่มต้นชีวิตใหม่ทำงานที่บ้านตัวเองได้ง่ายๆ คำถามคือมีอาชีพอะไรบ้างที่เราสามารถทำได้ที่บ้าน

1. อาชีพนักเขียน เพื่อนพ้องของผู้เขียนล้วนทำมาหากินด้วยอาชีพนี้กันทั้งสิ้น ทุกคนล่วนนั่งเขียน นอนเขียน กันอยู่ที่มุมใดมุมหนึ่งของบ้านตามถนัด พวกนักเขียนมืออาชีพมักมีโต๊ะทำงานและมุมเขียนหนังสือที่สร้างแรงบันดาลใจให้ตัวเอง หากคุณฝันอยากเป็นนักเขียน ก็จงเขียน เริ่มต้นเขียนที่บ้านของคุณเองนี่แหละดีที่สุด

2. ร้านอาหาร คุณอาจมีฝีมือทำอาหารได้อร่อย ใครกินก็ติดใจ จะรอช้าทำไม ถ้าบ้านของคุณมีทำเลพอใช้ได้ คนเดินผ่านไปผ่านมาทั้งวัน ก็อาจจะลองทำกับข้าวขายหน้าบ้าน หรือไม่อยากเสี่ยงที่จะต้องลงทุนมาก ก็เปิดเป็นร้านอาหารตามสั่งก็ได้ แต่หากทำเลบ้านไม่ดีนัก ก็อาจจะใช้วิธีพิมพ์ใบปลิวรายการอาหารแล้วไปแจกตามบ้านอื่นๆ ให้เขาโทรมาสั่ง และคุณไปส่งก็ได้

3. เบเกอรี่โฮมเมด ขนมปัง ขนมเค้ก ขนมหวาน ทำได้ที่บ้าน แต่จะทำกินเองอยู่ทำไม หากฝีมือของคุณเข้าขั้น ลองขยับขยายทำขายดีกว่า จะใช้วิธีไปฝากขายตามร้าน ฝากเพื่อนไปขายตามสำนักงานต่างๆ โดยแบ่งเปอร์เซนต์ให้เขาไป หรือจะติดป้ายหน้าบ้าน ตามเสาไฟฟ้าในหมู่บ้านว่า รับทำขนมเค้กตามสั่ง เริ่มต้นลูกค้าอาจไม่คับคั่ง จนคุณท้อใจ แต่ขอให้พยายามนำพาขนมของคุณออกไปให้ใครต่อใครได้ชิมอย่าได้หยุด และตั้งราคาไม่แพงเกินไป อีกไม่นานลูกค้าจะตามมาแน่นอน

4.นวดคลายเมื่อย หากคุณชอบนวดให้ย่าให้ยายในวัยเด็ก ถึงปัจจุบันก็ยังชอบนวดให้คนอื่นหรือให้คนอื่นนวด อาชีพรับนวดก็นับว่ามีรายได้พอเลี้ยงตัวเองได้ ลองไปเรียนที่วัดโพธิ์ หรือ สำนักฝึกอาชีพกทม.ให้จบหลักสูตรก่อน แล้วมาเปลี่ยนชั้นล่างของบ้านให้กลายเป็นที่รับนวดก็ได้ ลงทุนซื้อฟูกยางพารามาปูกับพื้น ยานวดคลายเส้นกลิ่นหอมๆ ที่ลูกค้าดมแล้วสบายใจ ติดประกาศรับนวดชั่วโมงละ 150 - 200 บาท หรือขยายอาณาจักรไปนวดให้ถึงบ้านเพิ่มราคา เป็นชั่วโมงละ 250 บาท แต่ละวันนวดสัก 2-3 คน คุณก็น่าจะพออยู่ได้แล้ว

5. ขายของออนไลน์ หากคุณชื่นชอบการเล่นอินเตอร์เน็ตที่บ้าน การขายของออนไลน์น่าจะเหมาะกับคุณ ลองหาข้าวของสวยเก๋ต่างๆ มาลงขายในเว็บไซต์ หรือเปิดเว็บไซต์ตัวเองเพื่อขายของอย่างจริงจังก็ได้

6. รับสอนพิเศษ ถ้าหากคุณพอมีความรู้ด้านวิชาการที่เก่งกาจสักด้านหนึ่ง เช่น เลข ฟิสิกส์ ภาษาอังกฤษ หรือ ดนตรี ลองเปิดสอนเด็กๆในหมู่บ้าน หรือลงในอินเตอร์เน็ตให้คนมาเรียนที่บ้านคุณก็ได้

7.รับเลียงเด็ก-ดูแลคนชรา อาชีพนี้ต้องมีใจรักไม่ใช่ใครจะทำก็ได้ เพราะเด็กและคนชราต้องการการเอาใจใส่และดูแลอย่างดีที่สุด หากคุณมีประสบการณ์เคยเลี้ยงลูก หรือ ดูแล ย่า ยาย มาก่อน ก็น่าจะทำได้ไม่ยาก ลองติดป้ายประกาศหน้าบ้านไว้ เชื่อว่าน่าจะมีลูกค้าแน่นอน

8.สารพัดตู้หยอดเหรียญ หากพอมีเงินลงุทนอยู่บ้าง วิธีง่ายๆ ที่จะหารายได้ที่บ้านก็คือ หาตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญ ตู้ซักผ้า ตู้เติมเงินมือถือ ฯลฯ มาตั้งไว้หน้าบ้าน โดยติดต่อเลือกบริษัทที่ไว้ใจได้

9.รับซักรีด หากคนในหมู่บ้านคุณเป็นคนทำงาน และคุณเป็นคนประณีตบรรจงในการซักรีดผ้า อาชีพนีก็น่าจะทำรายได้ให้คุณได้ไม่ยาก แม้จะเป็นอาชีพที่หลายคนบอกว่า ใครๆ ก็ซักรีดเป็นทั้งนั้น แต่ความสำเร็จของอาชีพนี้อยู่ที่ว่า ใครจะซักรีดได้เนี้ยบกว่ากัน ใครจะบริการลูกค้าตรงเวลากว่ากัน หากรู้จักทำโปรโมชั่นให้ลูกค้าเหมารายเดือน แถมบ้าง ลดราคาบ้าง จะช่วยดึงดูดลูกค้าให้มาใช้บริการ และจะติดใจมาใช้บริการเป็นลูกค้าประจำกันต่อไป

หวังว่า 9 อาชีพพอจะเป็นไอเดียให้คุณไปต่อเติมความฝันของตัวเองต่อไป หากคิดไม่ออกว่าชอบอะไรกันแน่ ให้ลองไปมองคนอื่นๆ ว่าเขาทำอาชีพอะไรกันบ้าง หรือไม่ก็ลองไปสมัครเรียนการฝึกอาชีพฟรีของกทม. ขอให้พยายามหาให้เจอสักอาชีพหนึ่งแล้วเริ่มต้นลงมือทำ

การเริ่มต้นลงมือทำอะไรก็ตาม แรกๆ อาจล้มลุกคลุกคลาน แต่หนทางเดียวที่เราจะเอาชนะมันให้ได้ ก็คือสู้ต่อไปอย่าได้หยุด และอย่ายอมแพ้..วันหนึ่งคุณก็จะประสบความสำเร็จแน่นอน